Tuesday, June 9, 2015

ประโยชน์ของระบบคลังข้อมูล

7:52 PM Posted by Nana
          โดยทั่วไปแล้วข้อมูล Operational Database จะเก็บข้อมูลในรูปแบบ Transaction Systems เมื่อมีความต้องการข้อมูลในอันที่จะนํามาใช้ช่วยในการตัดสินใจก็จะประสบปัญหาต่างๆ เช่น
  1. บุคลากรทางด้าน Information Systems จำเป็นต้องเรียกข้อมูลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งมีข้อมูลมากเกินความต้องการ ส่งผลให้ประสิทธิภาพของ Transaction Operational Database ทำงานได้ช้าลง
  2. ข้อมูลจะเป็นรูปแบบข้อมูลตารางเท่านั้น
  3. ข้อมูลจะถูกนำเสนอในรูปแบบที่ตายตัว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของผู้ใช้
  4. ไม่ตอบสนองความต้องการของการตัดสินใจ เพราะข้อมูลสําหรับการตัดสินใจมีความสลับซับซ้อนสูง มีการรวมตัวกันของข้อมูลจากตารางต่างๆ หลายๆ ตารางข้อมูล
  5. ไม่ตอบสนองการสอบถามข้อมูล (Data Queries) สําหรับผู้ใช้
  6. มีข้อมูลย้อนหลังน้อย (Historical Data)
  7. ข้อมูลถูกจัดเก็บกระจัดกระจายตามที่ต่างๆ ซึ่งยากต่อการเรียกใช้หรือขาดความสัมพันธ์ทางธุรกิจอันอาจจะต้องเสียเวลาในการทําให้สอดคล้อง หรือเกิดความซ้ำซ้อนของข้อมูลได้

           จากอุปสรรคที่กล่าวมาข้างต้นคลังข้อมูลจึงได้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองงานในรูปแบบการตัดสินใจโดยการแยกฐานข้อมูลออกจาก Operational Database และเก็บข้อมูลในรูปแบบข้อมูลสรุป (Summary Data)  ซึ่งข้อมูลสรุปนี้จะเลือกแต่เฉพาะข้อมูลที่มีความสําคัญต่อการตัดสินใจหรือเพื่อใช้ในการบริหารไปจนถึงการกําหนดแผนงานในอนาคต
          ในระบบคลังข้อมูล  ข้อมูลที่ซับซ้อนจะถูกรวบรวมหรือเปลี่ยนแปลงให้ง่ายต่อการจัดเก็บและสามารถเรียกกลับมาใช้ได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง  โดยข้อมูลต่างๆ เหล่านี้จะถูกนํามาใช้สำหรับการวิเคราะห์และช่วยในเรื่องการตัดสินใจโดยอาศัยเครื่องมือ (Tool) ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็น  ซอฟต์แวร์มาใช้ในการจัดการทำรายงานและเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการตัดสินใจให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยผู้บริหาร นักวางแผน และนักวิเคราะห์ข้อมูลสามารถเรียกหาข้อมูลหรือสอบถาม (Query) เพื่อให้ได้รับคําตอบในรูปแบบตารางรายงาน  หรือรายงาน  กราฟเพื่อมาทําการวิเคราะห์ข้อมูลลด้วยตนเองเช่น

  1. การเปรียบเทียบยอดขายระหว่างช่วงเวลาในอดีตกับปัจจุบันไปจนถึงการทําพยากรณ์ยอดขายในอดีต (Forecasting)
  2. การหายอดขายสูงสุดหรือตํ่าสุด
  3. การเปรียบเทียบยอดขาย ต้นทุน กําไร ในรูปแบบตารางรายงาน หรือรายงาน กราฟ

          ซึ่งเครื่องมือนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญในอันที่จะนําองค์กรไปสู่ความสําเร็จในกระบวนการตัดสินใจ  ในปัจจุบันเครื่องมือที่ตอบสนองงานเพื่อช่วยผู้บริหารสำหรับการตัดสินใจมีอยู่มากมายในตลาด  ทั้งนี้ก็เป็นทางเลือกของผู้ใช้ในการที่จะเลือกเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อตอบสนองงานของผู้บริหารในกระบวนการตัดสินใจต่อไป

          จะเห็นได้ว่าการจัดทําคลังข้อมูลเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของหน่วยงาน ทั้งนี้พราะหน่วยงานต่างๆ มักจะมีข้อมูลธุรกรรมที่ไม่มีความต้องกัน (Consistent) และมีความลักลั่นอยู่มากดังได้อธิบายไปบ้างแล้ว ดังนั้นการจัดทําคลังข้อมูลจะต้องหาทางแก้ปัญหานี้ให้ได้ อีกประการหนึ่งก็คือข้อมูลบางส่วนหายไปหรือมีไม่ครบ ยกตัวอย่างบริษัทแห่งหนึ่งต้องการวิเคราะห์ความสนใจของลูกค้าที่ใช้บัตรสมาชิกที่บริษัทออกให้  โดยกำหนดจะแยกความสนใจว่ามีความแตกต่างระหว่างเพศหรือไม่ แต่ในการจัดทำระบบประมวลผลธุรกรรมตั้งแต่แรกนั้นนักวิเคราะห์ระบบไม่ได้กําหนดให้เก็บข้อมูลเพศของลูกค้าเอาไว้เพราะเห็นว่าไม่เกี่ยวกับธุรกรรม  ดังนั้นผู้ใช้จึงไม่สามารถนําข้อมูลมาวิเคราะห์ได้  ในกรณ์เช่นนี้ระหว่างการจัดทําคลังข้อมูลก็จะต้องจัดให้มีพนักงานที่ทําหน้าที่ศึกษาข้อมูลโดยพิจารณาจากแบบฟอร์มเดิมแล้วนํามาบันทึกเป็นข้อมูลเพิ่มเติมขึ้น

         การจัดทําคลังข้อมูลจะมีความสําคัญมากขึ้นในอนาคต  เพราะปัจจุบันนี้ผู้ใช้และผู้บริหารของหน่วยงานเริ่มมีเข้าใจความสำคัญของข้อมูลมากขึ้น  และเริ่มตระหนักว่าหากนำข้อมูลมาวิเคราะห์ให้เข้าใจสถานภาพหรือเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นแล้วจะทําให้หน่วยงานหรือบริษัทสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดียิ่งขึ้นและจะทำให้หน่วยงานหรือบริษัททำงานบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้นตามไปด้วย