Tuesday, June 9, 2015

คุณสมบัติของคลังข้อมูล

7:45 PM Posted by Nana
คุณสมบัติสำคัญของคลังข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างจากฐานข้อมูลทั่วไป ประกอบด้วย
1. Subject Oriented
2. Integrated
3. Time-Variant
4. Non-Volatile


1. Subject Oriented
          คลังข้อมูลจะต้องถูกสร้างด้วยหัวข้อหลักทางธุรกิจที่องค์กรนั้นสนใจ ตัวอย่างหัวข้อที่น่าสนใจของธุรกิจขายสินค้า เช่น ลูกค้า สินค้า ยอดขาย อินวอยซ์ลูกค้า การควบคุมสต็อก และการขายสินค้า สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนในความต้องการจัดเก็บเพื่อใช้ในการสนับสนุนการตัดสินใจ การวิเคราะห์ และดาต้าไมนิง (Data Mining)
         ฐานข้อมูลระดับปฏิบัติการจะถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับระบบงานแต่ละอย่าง เช่นการขออนุมัติกู้เงิน การฝากเงิน สินเชื่อ ซึ่งแตกต่างกับระบบคลังข้อมูลที่มีกรจัดกลุ่มตามหัวข้อหลักที่องค์กรสนใจ เช่น ลูกค้า ผู้ขาย ผลิตภัณฑ์ เป็นต้น


2. Integrated
          เป็นไปได้ว่าข้อมูลที่นำมาใช้ประกอบการตัดสินใจนั้น สามารถได้มาจากแหล่งข้อมูลภายในและแหล่งข้อมูลภายนอก นั่นย่อมหมายถึงความแตกต่างในระบบ รวมทั้งอาจมีการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบที่แตกต่างกัน หรือมาจากความแตกต่างของแพลตฟอร์ม ดังนั้นระบบ Integrated จะต้องมีความสามารถในการรวมข้อมูลเหล่านั้นให้สอดคล้องหรือผสมผสานให้เป็นหนึ่งเดียวได้
          ฐานข้อมูลระดับปฏิบัติการ ต่างก็มีการออกแบบฐานข้อมูลที่แตกต่างกัน เช่นการอ้างอิงในรูปแบบวันที่ที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจจัดอยู่ในรูปแบบของ yymmdd, mmddyy หรือ mmddyyyy ดังนั้นระบบ Integrated จะต้องสามารถรวบรวมให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อให้ได้รูปแบบวันที่รูปแบบเดียวกัน รวมถึงหน่วยวัดของผลิตภัณฑ์ที่อาจจะใช้หน่วยอ้างอิงที่แตกต่างกัน เช่น เซนติเมตร นิ้ว หลา ดังนั้นระบบ Integrated จะต้องสามารถทำการแปลงหน่วยวัดเหล่านี้ให้เป็นหน่วยเดียวกันได้


3. Time-Variant
           ข้อมูลในฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการมุ่งเน้นความเป็นปัจจุบัน และจะต้องปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา แต่ข้อมูลในคลังข้อมูล จะเป็นข้อมูลที่มีช่วงอายุในระยะเวลาใด เวลาหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นตั้งแต่ 5 ถึง 10 ปี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเป็นหลักด้วย การนำข้อมูลย้อนหลังที่เก็บรวบรวมไว้ ก็เพื่อนำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบหาแนวโน้มและใช้พยากรณ์ทางธุรกิจ



4. Non-Volatile

          เป็นที่เข้าใจแล้วว่าข้อมูลในคลังข้อมูลนั้นมีความแตกต่างจากฐานข้อมูลที่ใช้งานประจำวัน ฐานข้อมูลประจำวัน มักมีการเพิ่ม ลบ หรือปรับปรุงข้อมูลเพื่อให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่คลังข้อมูลมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงเพื่อนำมาวิเคราะห์เท่านั้น ในการรับปรุงข้อมูลในคลังข้อมูลนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะรูปแบบการเก็บข้อมูลในคลังข้อมูล มุ่งเน้นประสิทธิภาพด้านการเรียกใช้ข้อมูลที่มีความรวดเร็วสูงเป็นสำคัญ มากกว่าพิจารณาความซ้ำซ้อนของข้อมูล อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขหรือปรับปรุง จะต้องเป็นวิธีที่ไม่ส่งผลกระทบต่อบานข้อมูลในคลัง เช่น การบันทึกช่วยจำ หรือการสร้างตัวแปรใหม่ เป็นต้น